เดือนมกราคมของทุกปี เป็นช่วงที่เสือออกจากถ้ำ ถึงฤดูแห่งการล่าเสือ นายพรานอย่างเราอย่ารอช้า เตรียมข้อมูลและเครื่องมือให้พร้อม ว่าแล้วเริ่มติดต่อจองรถ เพื่อขึ้นดอยอ่างขาง โทรแจ้งเช่ามอร์เตอร์ไซต์ขึ้นดอยอินทนนท์ไปขุนวาง จองที่พัก จองตั๋วเครื่องบินให้เสร็จสรรพ ทริปนี้เราจะออกไปล่าเสือกันที่เชียงใหม่ เดี๊ยวนะ! ล่าเสือ มีนายพรานคืออะไรอ่ะ งง! จะงงกันไปทำไมไม่เห็นต้องตกใจขนาดนั้นครับ เพราะเราจะพาทุกท่านออกเดินทางไปล่านางพญาเสือโคร่ง(ซากุระเมืองไทย) บนดอยแถวจังหวัดเชียงใหม่ สำหรับนายพรานนะเหรอ อะเราเองไง นายพรานล่าเสือเค้ามีปืนผาหน้าไม้ แต่นายพรานอย่างเรามีกล้องคู่ใจเพื่อออกล่าภาพนางพญาเสือโคร่ง ก่อนจะนอกเรื่องมากไปกว่านี้ ขอเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าครับ สืบเนื่องจากเมื่อช่วงกลางเดือนมกราคม 2561 ที่ผ่านมากระผมแอดมินเว็บไซต์อะเมสซิ่งไทยทัวร์ ได้มีโอกาสไปเที่ยวเชียงใหม่ 6 วัน 5 คืน กับทริปล่านางพญาเสือโคร่ง ดอยอ่างขาง ขุนวาง ดอยผาตั้ง ขุนช่างเคี่ยน ซึ่งขอเล่าประสบการณ์และแบ่งปันข้อมูลท่องเที่ยวที่เป็นประโยชน์สำหรับท่านที่สนใจอยากไปเที่ยวเชียงใหม่ช่วงพญาเสือโคร่งบาน พร้อมกันนี้ได้เก็บภาพสุดประทับใจระหว่างการเดินทางมาฝาก กับสมาชิกแฟนเพจและเพื่อนๆ ที่ติดตามเว็บไซต์ ถ้าพร้อมแล้วไปชมภาพกันเลยครับ
ทริป 6 วัน 5 คืน ตามล่านางพญาเสือโคร่ง (ซากุระเมืองไทย) ดอยอ่างขาง ขุนวาง ดอยผาตั้ง ขุนช่างเคี่ยน จังหวัดเชียงใหม่
เรียบเรียงข้อมูลโดย อะเมสซิ่งไทยทัวร์
ภาพจาก Akekalak Phatchaitong
อย่างที่ได้เกริ่นนำไว้ในตอนต้นสำหรับทริป 6 วัน 5 คืน ออกตามล่านางพญาเสือโคร่ง ดอยอ่างขาง ขุนวาง ดอยผาตั้ง อาจจะเกิดคำถามว่า ไปแค่ดอยอ่างขาง ขุนวาง ดอยผาตั้ง วางแผนเที่ยว 6 วันเลยเหรอ ขอออกเลยว่า ทริปนี้เราได้ใส่ที่พัก ที่กิน ที่เที่ยวเพิ่มเติมลงในทริปนี้ ซึ่งส่วนที่เพิ่มเข้ามานั้นจะต้องเด็ดทั้งเรื่องความสวยงามของสถานที่ เด็ดทั้งเรื่องของรสชาติที่กิน โดยแพลนที่วางไว้มีดังนี้
วันที่ 1 ลิ้มรสเมนูเด็ดที่ร้านโอ้กะจู๋ กับที่พักที่แสนจะโรแมนติที่เก๊าไม้ล้านนา รีสอร์ท
วันที่ 2 ที่พักวิวสวย ณ อ่างขาง เนเจอร์ รีสอร์ท ชมความงามดอกพญาเสือโคร่งดอยอ่างขาง อิ่มอร่อยกับอาหารรสเลิศ ณ ร้านดอกเหมย
วันที่ 3 สัมผัสแสงแรก ณ จุดชมวิวบ้านขอบด้ง, สุดชิลกับบรรยากาศยามเช้าที่ไร่ชา 2000 ต่อด้วยไร่สตอร์เบอร์รี่ขั้นบันไดบ้านนอแล เยือนสุดเขตไทย-พม่า ณ ฐานปฏิบัติการบ้านนอแล, ขับรถมอเตอร์ไซต์ขึ้นดอยอินทนนท์พักที่ผาซากุระขุนวาง
วันที่ 4 ชมดอกพญาเสือโคร่ง ณ ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ (ขุนวาง), ชุดชิลกับบรรยากาศที่พักติดนำ้ตก
วันที่ 5 ที่พักใจกลางนิมมานเหมินทร์ นิมมาน บูทิค รีสอร์ท, ชมความงดงามวัดโลกโมฬีและวัดพระสิงห์ยามค่ำคืน, ช้อปชิมชิล ณ ถนนคนเดินประตูท่าแพ
วันที่ 6 ตามล่านางพญาเสือโคร่ง ณ ขุนช่างเคี่ยน
วันที่ 17 มกราคม 2561 ทริปนี้เราเลือกใช้บริการสายการบิน Thai Lion Air (SL-506) โหลดสัมภาระใต้เครื่อง 10 กิโลกรัม สัมมาภาระที่สามารถนำขึ้นเครื่องได้ 7 กิโลกรัม ราคาตั๋วอยู่ที่ 1,234.39 บาท โดยจองผ่าน Traveloka เพราะจองง่าย ออนไลน์ 24 ชั่วโมง ฟรีค่าธรรมเนียม โปรโมชั่นราคาพิเศษส่วนลดมากมาย
เวลา 08.20 น. ออกเดินทางจากสนามดอนเมือง (DMK) มุ่งหน้าสู่สนามบินเชียงใหม่ ด้วย Airbus A330-300 สำหรับเที่ยวบินนี้ทุกที่นั่งมีจอ PTV ระบบสัมผัส มาพร้อมกับความบันเทิงไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ รายการทีวี สารคดี และเกมส์ อีกทั้งยังมีช่องเสียบหูฟังและ USB อีกด้วย
เวลา 09.35 น. เดินทางถึงสนามบินเชียงใหม่ หลังจากรอรับสัมภาระบริเวณสายพานเสร็จ เดินทางกันต่อโดยโบกรถแดงจากสนามบิน ณ บริเวณประตู 2 เพื่อไปโครงการนิ่มซิตี้ฯ (Nim City Community Mall) ค่ารถราคา 20 บาท เพื่อไปรับประทานอาหารที่ร้านโอ้กะจู๋ ซึ่งอยู่แถวนิ่มซิตี้ฯ อยู่ไม่ไกลจากเซ็นทรัลแอร์พอร์ท เมนูเด็ดที่เป็น signature ของที่นี่จะเป็นซี่โครงสะพานโค้ง ราคา 265 บาท และ Kiwi mango ราคา 95 บาท มาถึงก็สั่ง 2 อย่างนี้เลย
หลังจากอิ่มท้องและเดินถ่ายรูป เพื่อย่อยอาหารอยู่บริเวณในร้านและนอกร้าน เดินทางกันต่อ เพื่อไปพักที่เก๊าไม้ล้านนา รีสอร์ท อำเภอสันป่าตอง จากร้านโอ้กะจู๋ เดินข้ามฝั่งผ่านเซ็นทรัล แอร์พอร์ทพลาซ่า มารอรถเหลืองสายจอมทอง ตั้งแต่เวลา 12.21 น. รอรถเหลืองไปสันป่าตองและนั่งรถในราคา 45 บาท มาถึงเก๊าไม้ล้านนา รีสอร์ท (กม.29) ในเวลา 13.20 น. เดิมตั้งใจว่าถ้ามาถึงที่พักกะว่าจะนั่งรถเหลืองออกไปถ่ายภาพแถวตัวเมืองเชียงใหม่ แต่พอมาถึงต้องเปลี่ยนใจทันที ทำไมนะเหรอ ก็เพราะที่นี่บรรยากาศที่พักขอที่นี่สวยงามและมีมุมถ่ายภาพที่หลากหลาย ด้วยเหตุนี้จึงเลือกถ่ายภาพอยู่ที่พัก
เก๊าไม้ล้านนา รีสอร์ท เราเลือกพักห้องซูพีเรีย ราคา 1,723.59 บาท โดยเลือกจองที่พักผ่าน Traveloka ขอบอกเลยว่าการจองห้องพักในครั้งนี้ ได้รับรหัสส่วนลด ประหยัดไปตั้ง 400 บาท (แล้วรหัสส่วนลดได้จากไหน ง่ายๆ ติดตามผ่านแฟนเพจของ Traveloka ครับ)
ถ่ายภาพจนเกือบมืด เริ่มจะหิว เลยหาข้าวกิน ไม่ต้องออกไปทานไกลครับ เพราะในรีสอร์ทมีครัวหลากหลายเมนูให้เลือก มื้อนี้ขอเลือกข้าวผัดน้ำพริกหนุ่ม ผักสด แคบหมู ไส้อั่ว 110 บาท เอสเขียว 30 บาท
หลังจากที่ชมภาพบรรยากาศภายนอกของเก๊าไม้ล้านนา รีสอร์ท มาชมบรรยากาศของภายในที่พักขอบอกเลยว่าสวยงดงามน่าพักมากๆ ครับ
วันที่ 18 มกราคม 2561
เวลา 09.40 น. เช็คเอาท์ เก๊าไม้ล้านนา รีสอร์ท นั่งรถเหลือสายจอมทอง ราคา 55 บาท เพื่อไปยังสถานีขนส่งช้างเผือกมาถึงเวลา 11.07 น. เพื่อจองตั๋วรถตู้ไปอ่างขางที่บริษัท ยานยนต์นครเชียงใหม่ จำกัด ราคาตั๋ว 150 บาท รถเริ่มออกเดินทางเวลา 12.00 น. ระหว่างรอรถทานข้าวกระเพราไก่ไข่ดาว 45 บาท เก็บแรงไว้เพราะต้องออกเดินทางอีก 120 กม. เพื่อเดินทางไปอ่างขาง
เวลา 15.50 น. มาถึงปากทางดอยอ่างขาง ณ จุดนี้ใช้บริการวินมอร์เตอร์ไซต์ของลุงพร tel.086-1922747 ราคา 300 บาท ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่เดินทางด้วยการนั่งรถมอร์เตอร์ไซต์ขึ้นดอยอ่างขาง นึกสภาพดอยสูงชันกับรถมอร์เตอร์ไซต์พร้อมกับเป้ backpack สะพายหลังและสะพายหน้าด้วยเป้กล้อง DSLR+เลนส์ และแล้วก็เดินทางมาถึงอ่างขาง เนเจอร์ รีสอร์ทในเวลา 16.04 น. หลังจากนำกระเป๋าเป้ไว้ที่ห้องพัก ก็ออกถ่ายภาพบริเวณโดยรอบ
เดินถ่ายภาพกันจนหมดแรง เรามาเติมพลังกันที่ร้านดอกเหมย สั่งไก่อบโสมราคา 100 บาท และผัดกะหล่ำปลีหมูกรอบราคา 80 บาท
มาช้อปชิมชิลกันต่อแถวถนนคนเดินอ่างขาง ซึ่งจะเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 4 โมงเย็นถึง 3 ทุ่ม หากมาเดินที่นี่แนะนำให้ลองชิมข้าวตำงาดูครับ รสชาติอร่อย หวานๆ มันๆ เหนียวๆ นุ่มๆ หรือจะเลือกทานหมั่นโถว หรือขนมอื่นๆ ก็มีให้เลือกซื้อเลือกชมกันตามอัธยาศัย
กลับเข้าสู่ที่พักที่อ่างขาง เนเจอร์ รีสอร์ท บรรกาศภายในที่พักดีเยี่ยมอีกแล้วครับ แม้ว่าบรรยากาศดอยอ่างขางในช่วงเดือนมกราคมจะหนาวก็ตาม ดีตรงที่ห้องน้ำมีเครื่องทำน้ำอุ่นนี่แหละ จัดเตรียมความพร้อมชาร์ตแบตกล้องให้พร้อมสำหรับทริปวันถัดไป
วันที่ 19 มกราคม 2561
เวลา 06.00 น. เริ่มออกเดินทางด้วยรถยนต์ของพี่อุทัย tel.0991395544 ซึ่งเป็นรถเช่าวันละ 2,000 บาท ออกจากที่พักไปยังจุดแรกของทริป ณ จุดชมวิวบ้านขอบด้ง มาถึงจุดนี้เวลา 06.36 น.
และอีกหนึ่งสถานที่ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเที่ยวอ่างขาง นั่นก็คือ ไร่ชา 2000 เรามาถึงจุดนี้เวลา 07.16 น. ซึ่งเป็นช่วงเช้าตรู่โชคดีที่มีหมอกตอนเช้า เป็นภาพที่สวยงามยิ่งนัก
เวลา 08.52 น. มาถึงไร่สตอร์เบอร์รี่บ้านนอแล
เวลา 09.26 น. ฐานปฏิบัติการบ้านนอแล ดอยอ่างขาง
เวลา 10.48 น. สวน 80
เวลา 11.40 น. ณ แปลงบ๊วย ดอยอ่างขาง
หลังจากออกเดินทางตั้งแต่เช้ามืดถึงเวลาเกือบตอนบ่าย ณ เวลา 12.48 น. เดินทางมายังคิวรถตู้ บริษัท ยานยนต์เชียงใหม่ จำกัด ข้างโรงพยาบาลฝาง เบอร์โทร 053211577 เพื่อเดินทางกลับเข้าตัวเมืองเชียงใหม่ ด้วยค่าตั๋วราคา 155 บาท รถออกเวลา 13.23 น. ถึงสถานีขนส่งช้างเผือกเวลา 16.09 น. ออกเดินทางไปยังอำเภอจอมทอง เวลา 16.20 น. ถึงเวลา 18.19 ถึงร้านลุงตี๋จอมทอง tel.0857133248 เพื่อจองรถมอร์เตอร์ไซต์ขับขึ้นดอยอินทนนท์ ค่าเช่ารถวันละ 300 บาท จองทั้งหมด 3 วันด้วยกัน จองเสร็จไม่รอช้าเพราะเริ่มมืดแล้ว เวลา 18.44 น. รีบออกเดินทางจากจอมทองมุ่งสู่ดอยอินทนนท์ และเวลา 20.20 น. ก็มาถึงที่พัก ผาซากุระขุนวาง อยากบอกว่าระหว่างขับรถขึ้นดอยอินทนนท์กลางคืนด้วยรถมอร์เตอร์ไซต์ช่างเป็นอะไรที่ท้าทายจริงๆ เพราะมันมืดมาก มีแต่แสงไฟรถมอร์เตอร์ไซต์กับรถที่วิ่งสวนมาเท่านั้น ถ้าจะเช่ารถมอร์เตอร์ไซต์แนะนำให้มาเร็วกว่านี้ และไม่แนะนำให้มาถึง ณ จุดเช่ารถช่วงมืดๆ
วันที่ 20 มกราคม 2561
เวลา 05.30 น. ออกเดินทางจากผาซากุระไปยังศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ (ขุนวาง) ถึงเวลา 06.00 ถ่ายภาพตั้งแต่เช้าจนถึงเวลา 11.00 น.
เวลา 11.00 น. ตลาดนัดชุมชนบ้านขุนวาง และเดินทางออกจากศูนย์วิจัยขุนวางเวลา 11.43 น.
เวลา 11.55 น. จัดเตรียมสัมภาระต่างๆ เพื่อย้ายไปที่พักอีกหลัง ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเดิมประมาณ 500 เมตร ซึ่งหลังนี้บรรยากาศดีมาก เพราะอยู่ติดน้ำตก นอนหลับได้ยินเสียงน้ำตก เสียงธรรมชาติขับกล่อมชวนให้หลับได้เป็นอย่างดีกันเลยทีเดียว สนใจจองที่พักติดต่อได้ที่ น้องชาลี tel. 088-7585447
เวลา 12.53 น. ออกจากบ้านดิน ไปถ่ายภาพ ณ โรงเรียนบ้านขุนกลางและดอยผาตั้ง
เวลา 13.37 น. ถึงโรงเรียนบ้านขุนกลาง เวลา 14.02 ออกจากโรงเรียนบ้านขุนกลางไปยังดอยผาตั้ง
เวลา 14.25 ถึงหน่วยพิทักษ์ฯ ที่ อน. ๗ (ดอยผาตั้ง) ที่นี่นอกจากนักท่องเที่ยวจะได้ชมดอกพญาเสือโคร่งแล้ว ยังมีจุดถ่ายภาพกับแกะ ซึ่งแกะที่นี่เชื่องมาก จะเห็นได้ว่ายอมให้นักท่องเที่ยวถ่ายภาพได้อย่างใกล้ชิด ถ่ายภาพอยู่จุดนี้จนถึงเวลา 16.24 น. ออกเดินทางกันต่อเพื่อกลับไปพักที่ขุนวาง
เวลา 17.08 น.แวะมาทานอาหารที่บ้านพักโปโป&ปิงปิง โฮมสเตย์ ขุนวาง
สืบเนื่องตอนเดินทางมาพักที่ผาซากุระขุนวางมาถึงในเวลาค่ำจึงไม่ได้เก็บภาพ พอมีเวลาเหลือช่วงเวลา 17.57 น. จึงแวะมาเก็บภาพบรรยากาศยามเย็นที่ผาซากุระขุนวาง สนจองที่พักติดต่อได้ที่ คุณสุริยา tel. 086-1944842
วันที่ 21 มกราคม 2561
เวลา 07.05 น. เก็บภาพยามเช้าที่ผาซากุระขุนวาง
เวลา 09.00 น. ออกจากขุนวาง เดินทางไปยังพระมหาธาตุนภเมทนีดล-นภพลภูมิสิริ ถึงเวลา 10.37 น.
เวลา 11.58 น. ถึงร้านลุงตี๋ เพื่อคืนรถมอร์เตอร์ไซต์ และเริ่มเดินทางเวลา 12.27 น. นั่งรถเหลืองเข้าเชียงใหม่ ราคา 35 บาท เวลา 14.12 น. ถึงสถานีขนส่งช้างเผือก
เวลา 14.40 น. บ่ายสองเริ่มหิวเลยแวะชิมขนมจีนป้าพินธุ์ สันธิธรรม สั่งไป 2 จานด้วยกัน คือขนมจีนน้ำเงี้ยว ราคา 25 และขนมจีนน้ำยากะทิ ราคา 25 บาท
เวลา 15.09 น. มาถึงจุดเช่ามอร์เตอร์ไซต์ ชื่อร้าน “bikky” tel.080-1220985 ค่าเช่ารถวันละ 300 บาท เช่า 2 วันด้วยกัน จ่ายไป 600 บาท เอกสารที่ใช้ประกอบการเช่า จะเก็บบัตรประชาชน ตัวจริง+ค่าเช่า เหตุผลที่เลือกเช่ารถที่นี่ เนื่องด้วยเป็นสาขาที่ตั้งอยู่แถวนิมมานเหมินทร์ ซึ่งอยู่ใกล้กับที่พัก สะดวกตอนเอารถมาคืน ก็สามารถข้ามฝั่งเพื่อนั่งรถแดงขึ้นเครื่องกลับได้เลย อะไรจะสะดวกขนาดนั้น ฮ่าๆๆ
เวลา 16.20 น. เดินทางถึงที่พัก คืนนี้พักที่นิมมาน บูทิค รีสอร์ท แอนท์ แอนด์ สปา เราเลือกพักห้อง Superior Double Room with Breakfast (รวมอาหารเช้า ฟรี WiFi) ในราคา 1,300.38 บาท โดยจองที่พักผ่าน Traveloka
เวลา 18.05 น. แวะถ่ายภาพ ณ วัดโลกโมฬีกับบรรยากาศยามค่ำคืน
เวลา 19.51 น. แวะถ่ายภาพ ณ วัดพระสิงห์กับบรรยากาศยามค่ำคืน
หลังจากแวะถ่ายภาพวัดพระสิงห์ยามคำคืนเสร็จ จุดต่อไปเราก็มาเดินกันต่อ เวลา 20.22 น. ณ ถนนคนเดินประตูท่าแพ โดยเริ่มจากประตูท่าแพ ยาวออกไปทางถนนราชดำเนินจนถึงวัดพระสิงห์ รวมระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตรด้วยกัน
หลังจากเดินถ่ายรูปสุดชิลแถวถนนคนเดิน ก็กลับมาถึงนิมมาน บูทิค รีสอร์ท แอนท์ แอนด์ สปา เวลา 22.12 น. มาถึงก็อาบน้ำเตรียมเดินทางต่อพรุ่งนี้เช้า
วันที่ 22 มกราคม 2561
เวลา 05.22 น. เริ่มออกจากที่พักนิมมานบูติครีสอร์ท และมาถึงจุดชมพญาเสือโคร่ง ณ ขุนช่างเคี่ยน ในเวลา 6.42 น.
เวลา 09.40 น. มาเชียงใหม่หากอยากทานอาหารใต้รสเด็ดเราขอแนะนำร้านคุณเปรี้ยวอาหารใต้ ซึ่งเดิมทีเคยมาทานสมัยที่ร้านตั้งอยู่หน้าวัดพระสิงห์ โดยตอนนี้ย้ายมาอยู่หน้าคณะทันตแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
เวลา 10.15 น. เก็บกระเป๋าเตรียมออกเดินทางจากที่พัก เพื่อเอารถมอร์เตอร์ไซต์ไปคืนที่ร้าน bikky ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่พักมากนัก หลังจากคืนรถเสร็จ ข้ามฝั่งโบกรถแดงไปยังสนามบินเชียงใหม่ ค่ารถไปสนามบิน 50 บาท เข้าใจว่าถ้าเช่ารถแดงราคาน่าจะมากกว่านี้ เพราะตอนที่ขึ้นบนรถมีนักท่องเที่ยวเกาหลีน่าจะเหมารถ แต่เราโบกรถแล้วขึ้นเลยจึงได้ขึ้นรถแดงคันดังกล่าวมาด้วย คนขับคิดแค่ 50 บาท
เวลา 11.37 น. check in ณ สนามบินเชียงใหม่ เพื่อเดินทางโดยเครื่องบินกลับกรุงเทพฯ
เวลา 15.17 น. ถึงสนามบินดอนเมือง
จบทริป 6 วัน 5 คืน ตามล่านางพญาเสือโคร่ง ดอยอ่างขาง ขุนวาง ดอยผาตั้ง เป็นอีกหนึ่งทริปที่ได้ภาพประทับใจและสุดสนุก เพราะได้ออกเดินทางหลากหลายรูปแบบทั้งเครื่องบิน นั่งรถเหลือง ขับมอร์เตอร์ไซต์ขึ้นดอยอินทนนท์เป็นครั้งแรกในชีวิตและที่สำคัญขับช่วงกลางคืน ถือเป็นประสบการณ์ที่ไม่รู้ลืม มีทั้งความรู้สึกกลัวและท้าทายปนเปกันไป รอติดตามทริปหน้าว่าเราจะพาไปเที่ยวที่ไหน อย่าลืมติดตามข่าวสารท่องเที่ยวใหม่ๆ และทริปเดินทางได้ที่เว็บไซต์อะเมสซิ่งไทยทัวร์ และแฟนเพจ https://www.facebook.com/amazingthaitour/
งานสืบสานประเพณีวัฒนธรรมลุ่มน้ำแม่กลองของดีเมืองสามน้ำและงานกาชาดจังหวัดสมุทรสงคราม ประจำปี 2566
เทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2566 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ 818 Viewsอะเมสซิ่งไทยทัวร์ ขอเชิญชวนทุกท่านเที่ยวเทศกาล […]
คอนเสิร์ตบิ๊กเมาน์เท่น 2566 (Big Mountain Music Festival : 1,014 Viewsอัพเดทข่าวสารงานคอนเสิร์ตที่ทุกคนรอคอยกับคอน […]
เทศกาลเงาะโรงเรียนนาสาร ประจำปี 2566 จังหวัดสุราษฎร์ธานี 875 Viewsอะเมสซิ่งไทยทัวร์ ขอเชิญทุกท่านเที่ยวเทศกาลเงา […]
งานประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษา อุบลราชธานี ประจำปี 2566 755 Viewsจังหวัดอุบลราชธานี ขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวร่วมง […]