ภูกระดึง (Phu Kradueng) ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ได้รับความนิยมมากแห่งหนึ่งของเมืองไทย มีชื่อเสียงเลื่องลือมายาวนาน ไม่ว่าวันเวลาจะผ่านไปเนิ่นนานเพียงใดภูกระดึงยังมีนนต์เสน่ห์ดึงดูดใจให้นักท่องเที่ยวอยากไปสัมผัสภาพใบเมเปิ้ลสีแดง ที่ร่วงหล่นทั่วพื้นดินและผิวน้ำในลำธาร ทะเลหมอกที่ปกคลุมอยู่เหนือทิวสน ท่ามกลางทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ แซมด้วยดอกไม้ป่าหลากสีสัน อีกทั้งยังมีกุหลาบพันปี สีขาว สีแดง บานสะพรั่งทั่วผืนป่า ทั้งนี้พื้นที่ภายในอุทยานฯ ยังมีสภาพธรรมชาติสมบูรณ์ประกอบด้วยระบบนิเวศและภูมิประเทศหลากหลายทั้งทุ่งหญ้า ป่าสนเขา ป่าดิบ น้ำตกและหน้าผาชมทิวทัศน์ เส้นทางขึ้นภูกระดึง ทางขึ้นค่อนข้างชันแต่จะมีจุดแวะพักที่ “ซำ” ซึ่งหมายถึง บริเวณที่มีแหล่งน้ำใต้ดินผุดขึ้นมา โดยแต่ละจุดจะมีเครื่องดื่มและอาหารบริการ นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถชมความงามยามอาทิตย์ลับขอบฟ้า ณ บริเวณหน้าผาหล่มสัก ทำให้ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวชมความงดงามภายในพื้นที่อุทยานฯ โดยเฉพาะในช่วงหน้าหนาวจะมีนักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศนิยมขึ้นไปสัมผัสธรรมชาติบนภูกระดึงเป็นจำนวนมาก
เรียบเรียบข้อมูลโดย อะเมสซิ่งไทยทัวร์
ขอบคุณภาพประกอบจาก : คุณ Yod Miansaard
ข้อมูลอ้างอิง : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, สำนักอุทยานแห่งชาติ, มติชนออนไลน์
ภูกระดึง มีจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายที่ด้วยกัน ได้แก่ ผานกแอ่น เป็นอีกหนึ่งจุดที่นักท่องเที่ยวสามารถชมความงดงามของพระอาทิตย์ขึ้น ซึ่งสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์เบื้องล่างที่มีลักษณะเป็นท้องทุ่งและเทือกเขา ริมทางเดินใกล้ผานกแอ่นยังมีดอกกุหลาบป่าขึ้นเป็นดงใหญ่ โดยจะบานสะพรั่งในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน และยังมีผาหล่มสัก ซึ่งมีลักษณเป็นลานหินกว้าง มีสนต้นใหญ่อยู่ใกล้กับชะง่อนหินยื่นออกไปจากหน้าผา เป็นสถานที่ชมพระอาทิตย์ตกได้ชัดเจนที่สุด โดยในบริเวณนี้เป็นจุดที่ทำให้นักท่องเที่ยว โดยเฉพาะช่างภาพนิยมไปถ่ายภาพเป็นที่ระลึก ผาแห่งนี้ถือเป็นสัญลักษณ์ของภูกระดึง นอกจากนี้ยังมี ผาหมากดูก น้ำตกวังกวาง น้ำตกเพ็ญพบใหม่ น้ำตกโผนพบ น้ำตกเพ็ญพบ น้ำตกธารสวรรค์ น้ำตกถ้ำสอเหนือ น้ำตกถ้ำสอใต้ สระอโนดาต เป็นต้น และอีกหนึ่งจุดที่นักท่องเที่ยวและช่างภาพนิยมไปเที่ยวชมกัน นั่นก็คือ น้ำตกถ้ำใหญ่ ซึ่งเป็นบริเวณที่สามารถชมความงดงามของ “เมเปิ้ลแดง” ที่ร่วงหล่นทั่วพื้นดินและผิวน้ำในลำธาร
สถานที่ตั้งภูกระดึง : อุทยานแห่งชาติภูกระดึง หมู่ที่ 1 บ้านศรีฐาน ต.ศรีฐาน อ. ภูกระดึง จ. เลย 42180
วันและเวลาเปิดทำการ : เปิดทำการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00 – 18.00
การเดินทางไปยังภูกระดึง :
1. โดยรถยนต์ เดินทางโดยรถยนต์ สามารถเดินทางได้หลายเส้นทาง
เส้นทางที่ 1 เดินทางผ่านจังหวัดสระบุรี เพชรบูรณ์ อำเภอหล่มสัก หล่มเก่า ด่านซ้าย ภูเรือ และอำเภอเมืองเลย แล้วเลี้ยวเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 201 (เลย-ขอนแก่น) และเลี้ยวเข้าทางหลวงจังหวัดหมายเลข 2019 ก็จะเข้าสู่พื้นที่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง
เส้นทางที่ 2 ใช้เส้นทางผ่านจังหวัดสระบุรี จังหวัดนครราชสีมา จนถึงจังหวัดขอนแก่นเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 201 ผ่านอำเภอภูผาม่านและตำบลผานกเค้า ก็จะเข้าสู่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง
เส้นทางที่ 3 เดินทางผ่านจังหวัดสระบุรี อำเภอปากช่อง เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 201 ผ่านจังหวัดชัยภูมิ อำเภอภูเขียว แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 12 ผ่านอำเภอชุมแพ จากนั้นเดินทางเช่นเดียวกับเส้นทางที่ 2
2. โดยเครื่องบิน โดยใช้เที่ยวบิน กรุงเทพฯ-ขอนแก่น กรุงเทพฯ-เลย กรุงเทพฯ-อุดรธานี ของสายการบินต่างๆ ได้ทุกวัน สอบถามข้อมูลเที่ยวบินและสายการบิน ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ติดต่อ 02-628-2000, 02-515-9999, 02-267-2999 และ 1318
3. โดยรถไฟ ขึ้นรถไฟที่ที่สถานีรถไฟหัวลำโพงถึงสถานีรถไฟขอนแก่น ต่อรถโดยสารสายขอนแก่น-เลย ถึงอำเภอภูกระดึงแล้วต่อรถสองแถวเข้าอุทยานแห่งชาติภูกระดึง สอบถามข้อมูลรถไฟ หมายเลขโทรศัพท์ติดต่อ 02-225-1300 ต่อ 5201 ,02-223-0341-3 หรือติดต่อสอบถามโดยตรงที่อุทยานแห่งชาติกระดึง หมายเลขโทรศัพท์ 042-87-1333, 042-87-1458
4. โดยรถโดยสารประจำทาง ขึ้นรถโดยสารที่สถานีขนส่งภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (หมอชิต 2) สายกรุงเทพ-เมืองเลย ลงรถที่ผานกเค้า ซึ่งเป็นเขตรอยต่อระหว่างชุมแพ-ภูกระดึง จากจุดนี้จะมีรถสองแถวไปอุทยานแห่งชาติ ภูกระดึงหรือหากนักท่องเที่ยวใช้รถประจำทางเส้นทางกรุงเทพฯ-ชุมแพแล้วลงที่ตลาดชุมแพแล้วต่อรถสายชุมแพ-ผานกเค้า ไปลงที่ผานกเค้า ซึ่งจะมีรถสองแถวไปที่ทำการอุทยานฯ จากนั้นต้องเดินเท้าเข้าสู่ยอดภูกระดึงระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร
บริเวณที่ทำการอุทยานฯ มีด่านเก็บค่าธรรมเนียม ผู้ใหญ่คนละ 40 บาท เด็ก 20 บาท ชาวต่างประเทศ ผู้ใหญ่ 400 บาท เด็ก 200 บาท และบริการลูกหาบสัมภาระ กิโลกรัมละ 15 บาท นักท่องเที่ยวสามารถเช่าเต็นท์และบ้านพักได้ที่ที่ทำการอุทยานฯ หมายเลขโทรศัพท์ 042-871333 , 042-871458 ระหว่างเวลา 07.00-18.00 น. หรือติดต่อกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กรุงเทพมหานคร หมายเลขโทรศัพท์ติดต่อ 02-5620760 เว็บไซต์ www.dnp.go.th
หมายเหตุ : 1.อุทยานแห่งชาติภูกระดึง จะปิดระหว่างเดือนมิถุนายน-กันยายน ทุกปี เพื่อทำการฟื้นฟูและปรับปรุง สภาพธรรมชาติและสถานที่พักสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับนักท่องเที่ยว
2.อุทยานแห่งชาติภูกระดึงได้จำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว 5,000 คน ต่อวัน และสามารถกางเต็นท์บนอุทยานฯ ได้ถึง 200 หลัง ต่อวัน สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจหรือต้องการเที่ยวชมความงดงามทางธรรมชาติของภูกระดึง สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 042-87 1333 , 042-87 1458 ระหว่างเวลา 07.00-18.00 น.
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสกับความงดงามของธรรมชาติภายในพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง สามารถเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ได้ตามข้อมูลที่ระบุไว้ในข้างต้น
งานสืบสานประเพณีวัฒนธรรมลุ่มน้ำแม่กลองของดีเมืองสามน้ำและงานกาชาดจังหวัดสมุทรสงคราม ประจำปี 2566
เทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2566 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ 819 Viewsอะเมสซิ่งไทยทัวร์ ขอเชิญชวนทุกท่านเที่ยวเทศกาล […]
คอนเสิร์ตบิ๊กเมาน์เท่น 2566 (Big Mountain Music Festival : 1,014 Viewsอัพเดทข่าวสารงานคอนเสิร์ตที่ทุกคนรอคอยกับคอน […]
เทศกาลเงาะโรงเรียนนาสาร ประจำปี 2566 จังหวัดสุราษฎร์ธานี 876 Viewsอะเมสซิ่งไทยทัวร์ ขอเชิญทุกท่านเที่ยวเทศกาลเงา […]
งานประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษา อุบลราชธานี ประจำปี 2566 755 Viewsจังหวัดอุบลราชธานี ขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวร่วมง […]